ในยุคที่ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักส ำหรับผู้ประกอบการจำนวนมาก หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่ผู้ขายต้องเผชิญก็คือเรื่อ งของ "ราคาค่าขนส่งสินค้า" ซึ่งมักกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อต้นทุนและกำไร หากจัดการไม่ดี ค่าขนส่งอาจสูงลิ่วจนบั่นทอนกำไรแทบไม่เหลือ บทความนี้จะเปิดเผยเทคนิคและกลยุทธ์ที่คนขายของออนไล น์ควรรู้ เพื่อให้ราคาค่าขนส่งไม่แพงมากนัก และช่วยสร้างกำไรได้อย่างที่ควรจะเป็น
1. ทำความเข้าใจโครงสร้างราคาค่าขนส่ง
ก่อนที่จะลดค่าขนส่งได้ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าค่าขนส่งคิดจากอะไรบ้าง โดยทั่วไปจะพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
สำหรับข้อนี้ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เนื่องจากการเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่ตรงกับความต้อ งการของธุรกิจคุณจะช่วยประหยัดราคาค่าขนส่งได้มากขึ้ น
การบรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่เพียงช่วยปกป้องสินค้า แต่ยังช่วยลดราคาค่าขนส่งได้อีกด้วย
อีกหนึ่งวิธีที่ผู้ประการสามารถนำไปปรับใช้ได้ก็คือ การกำหนดนโยบายค่าขนส่งที่ดึงดูดใจแต่ไม่ทำให้ธุรกิจ ต้องขาดทุน เช่น
การจัดการราคาค่าขนส่งสินค้าให้มีราคาไม่แพงและสร้าง กำไรได้อย่างยั่งยืนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โดยผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจโครงสร้างของค่าใช้จ่ายใ นธุรกิจให้ดีเสียก่อน พร้อมกับเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยให้ทำกำไรได้ในระยะยาว
?
ก่อนที่จะลดค่าขนส่งได้ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าค่าขนส่งคิดจากอะไรบ้าง โดยทั่วไปจะพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
- น้ำหนักและขนาดของพัสดุ: ยิ่งพัสดุมีน้ำหนักมากหรือมีขนาดใหญ่ ค่าขนส่งก็จะยิ่งแพง
- ระยะทาง: ยิ่งส่งไกล ค่าขนส่งก็ยิ่งสูง
- ประเภทบริการขนส่ง: บริการแบบเร่งด่วน ยิ่งแพงกว่าบริการแบบมาตรฐาน
- บริการเสริม: เช่น ประกันสินค้า การเก็บเงินปลายทาง (COD) จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- โปรโมชั่นและส่วนลด: ผู้ให้บริการขนส่งมักจะมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าประจำ หรือผู้ส่งจำนวนมาก
สำหรับข้อนี้ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เนื่องจากการเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่ตรงกับความต้อ งการของธุรกิจคุณจะช่วยประหยัดราคาค่าขนส่งได้มากขึ้ น
- เปรียบเทียบราคาหลายเจ้า: อย่าผูกขาดกับผู้ให้บริการรายเดียว ลองเปรียบเทียบราคาและบริการจากหลายเจ้า เช่น ShipAny, ไปรษณีย์ไทย, Kerry Express, Flash Express, J&T Express, Best Express, Shopee Express, Lazada Express เป็นต้น แต่ละเจ้ามีจุดเด่นและโครงสร้างราคาที่แตกต่างกัน
- พิจารณาปริมาณการส่ง: หากคุณส่งของจำนวนมาก ลองเจรจากับผู้ให้บริการเพื่อขอเรทราคาพิเศษหรือส่วน ลดสำหรับลูกค้ารายใหญ่
- ความครอบคลุมพื้นที่: ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการสามารถจัดส่งสินค้าไปยังพื้นท ี่เป้าหมายของลูกค้าคุณได้ทั่วถึงหรือไม่ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล
- ความน่าเชื่อถือและความรวดเร็ว: แม้ราคาจะถูก แต่หากบริการไม่ดี สินค้าเสียหาย หรือจัดส่งช้า อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจและเสียโอกาสทางธุรกิจในระยะยา ว
- ระบบติดตามพัสดุ: ผู้ให้บริการควรมีระบบติดตามพัสดุที่ใช้งานง่าย เพื่อให้ทั้งคุณและลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่ งได้
การบรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่เพียงช่วยปกป้องสินค้า แต่ยังช่วยลดราคาค่าขนส่งได้อีกด้วย
- เลือกขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม: ใช้กล่องหรือซองที่มีขนาดพอดีกับสินค้ามากที่สุด ไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าขนส่งในส่วนที่เกินความจำเ ป็น (Dimensional Weight Pricing)
- น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง: ใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแ รง เพื่อลดน้ำหนักรวมของพัสดุ
- บรรจุภัณฑ์แบบประหยัดพื้นที่: พิจารณาการใช้ซองหรือกล่องแบบซองสำหรับสินค้าที่ไม่เ ปราะบาง เพื่อลดปริมาตร
อีกหนึ่งวิธีที่ผู้ประการสามารถนำไปปรับใช้ได้ก็คือ การกำหนดนโยบายค่าขนส่งที่ดึงดูดใจแต่ไม่ทำให้ธุรกิจ ต้องขาดทุน เช่น
- โปรโมชั่นส่งฟรี: เป็นกลยุทธ์ที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีเยี่ยม คุณอาจกำหนดเงื่อนไข เช่น ส่งฟรีเมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรือส่งฟรีสำหรับสินค้าบางประเภท เพื่อกระตุ้นยอดขายและเฉลี่ยต้นทุนค่าส่ง
- ค่าส่งแบบเหมาจ่าย: กำหนดค่าส่งตายตัวต่อออเดอร์ ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อกี่ชิ้นก็ตาม วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้ค่าใช้จ่ายที่แน่นอนล่วงหน้า
- คิดค่าส่งตามจริง: เหมาะสำหรับสินค้าที่มีขนาดหรือน้ำหนักแตกต่างกันมาก คุณสามารถตั้งค่าในระบบร้านค้าออนไลน์ให้คำนวณค่าส่ง อัตโนมัติ
- การเก็บเงินปลายทาง (COD): บริการนี้เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า แต่ก็มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม คุณอาจบวกค่าธรรมเนียมนี้เข้าไปในค่าสินค้าหรือค่าขน ส่งเล็กน้อย
- ระบบจัดการออเดอร์ (OMS): ใช้ระบบที่ช่วยรวมออเดอร์จากหลายช่องทาง และเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ให้บริการขนส่ง ทำให้การออกใบปะหน้าและการเรียกเข้ารับพัสดุเป็นเรื่ องง่ายและรวดเร็ว
- ปลั๊กอินหรือแอปเสริม E-commerce: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่มีปลั๊กอินหรือแอปเสริม ที่ช่วยคำนวณค่าขนส่งอัตโนมัติ แสดงตัวเลือกการจัดส่ง และช่วยพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ
- ระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ (ถ้ามี): สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ การใช้ระบบจัดการคลังสินค้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพใน การแพ็คสินค้าและลดข้อผิดพลาด
การจัดการราคาค่าขนส่งสินค้าให้มีราคาไม่แพงและสร้าง กำไรได้อย่างยั่งยืนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โดยผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจโครงสร้างของค่าใช้จ่ายใ นธุรกิจให้ดีเสียก่อน พร้อมกับเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยให้ทำกำไรได้ในระยะยาว
?